จุกนมหลอกที่ดีที่สุด สำหรับพัฒนาการของฟันและกรามของเด็ก ด้วยการวิจัยและพัฒนาของ MAM คอของจุกนมหลอก MAM Perfect บางเพียง 2.28มิลลิเมตร บางกว่า 53-78% และนุ่มกว่า 1.5-5.33 เท่า เมื่อเทียบกับจุกนมหลอกแบรนด์อื่นๆ
- ออกแบบเพื่อลดความเสี่ยงของฟันที่ขึ้นผิดรูปและตำแหน่ง
- จุกนมหลอก รุ่น MAM Perfect ได้รับการพัฒนาโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดฟัน
- ผ่านการทดสอบโดย Dental University Clinic of Vienna
- นวัตกรรม Dento-Flex ที่เน้นความบางและนุ่มกว่าจุกนมหลอกทั่วไป
- มาพร้อมกับลิขสิทธ์การออกแบบที่ยอดเยี่ยมของ MAM’s patented silk teat เน้นความสบาย ผ่อนคลาย เมื่อเด็กดูดจุกหลอก
- รูปแบบสวยงามที่มาพร้อมกับ รูระบายอากาศขนาดใหญ่ส่งผลดีกับผิวหนังบริเวณรอบปากของเด็ก
- มาพร้อมกล่องบรรจุที่สามารถใช้เติมน้ำแล้วใส่ในไมโครเวฟ เพื่อฆ่าเชื้อจากนั้นเทน้ำออกและพกพาได้เลย
เปรียบเทียบความแตกต่างของจุกนมหลอก MAM Perfect และ จุกนมในท้องตลาด
• ความหนาของคอจุกนมหลอก ทำให้เกิดช่องว่างมากเกินไประหว่างกรามและฟัน
• รูปทรงและตำแหน่งของฟันเด็กอาจได้รับผลกระทบตั้งแต่ฟันน้ำนมและส่งผลไปถึงฟันแท้
• จุกนมหลอกทั่วไปใช้วัสดุที่แข็งและไม่ยืดหยุ่น ทำให้กดทับเหงือกลิ้นและกราม ส่งผลถึงการเจริญเติบโตของฟัน
การดูด (Sucking) เป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติของทารกและได้รับการยืนยันจากแพทย์ว่าพฤติกรรมนี้จะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยพัฒนาการเจริญเติบโตของกรามและฟันของเด็กอีกด้วย
จุกนมหลอกจึงมีคุณสมบัติที่ดีกว่านิ้วมือของเด็ก ของเล่น หรือของใช้อื่นๆ เพราะจุกนมหลอกง่ายต่อการหยุดใช้ ปลอดภัย และได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด SIDS (cot death)
(SIDS) หรือ Cot death คืออะไร
Cot Death หรือแปลเป็นไทยว่า “ภาวะไหลตายในเด็ก” หรือโรคที่ทำให้เด็กตายอย่างกระทันหัน ขณะนอนหลับ จะฟังดูเป็นเรื่องไกลตัวและไม่สู้จะคุ้นเคยสักเท่าใด สำหรับคุณแม่ในประเทศไทยอย่างเรา แต่ในต่างประเทศนั้น Cot Death ถือเป็นภาวะการเสียชีวิตที่ยากจะอธิบายและสามารถจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อแม้เราจะเฝ้าระวังอย่างดีแล้วก็ตาม ดังนั้นการที่คุณแม่จะคอยสังเกตลูกน้อย และใส่ใจอาการที่ว่านี้บ้างเพื่อความอุ่นใจจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น เพราะคงไม่มีแม่คนไหนอยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับลูกของตัวเอง
การศึกษาวิจัยในต่างประเทศเชื่อว่า Sudden Infant Death Syndrome คือ การเสียชีวิตของทารกน้อยที่มีอายุตั้งแต่ 1 สัปดาห์ จนถึง 1 ขวบ
(ซึ่งจะพบภาวะนี้บ่อยในทารกวัย 2-3 เดือน) หลังจากที่พวกเขาหลับและระบบควบคุมการหายใจทำงานอย่างผิดปกติ หรือมีสิ่งปิดกั้นทางเดินของหลอดลมจนกระทั่งหายใจไม่ออก
และเสียชีวิตในที่สุด